หุ้น TIDLOR – สรุป OPPDAY 2022Q2
สรุปประเด็นสำคัญ
– พอร์ต 70,700 ลบ. +8% QoQ +15% YTD
– เบี้ยประกัน Q2/65 1,486 ลบ. +37% YoY หากดูรอบครึ่งปี +37% YoY
– Cost to income Q2/65 ที่ 56.1% ลดลงเรื่อยๆ แต่ในครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้นบ้าง เนื่องจาก Q2 มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางน้อยกว่าปกติ
– กำไร New high ต่อเนื่อง 981 ลบ. +26% YoY
– ครึ่งปีแรกเปิดสาขาไป 198 สาขา รวมเป็น 1,484 สาขา เปิดเยอะ +15.4% YTD แต่ยอดปล่อยสินเชื่อต่อสาขายังใกล้เคียงเดิมอยู่แถว 47.6 ลบ. ต่อสาขา
– บัตรติดล้อจำนวน User ยังเพิ่มต่อเนื่อง ตอนนี้ขึ้นมา 4 แสนรายจากสิ้นปีก่อน 2.85 แสนราย สามารถสร้างสัดส่วน New loan ได้ถึง 9% ลูกค้าใช้บัตรนอกเวลาทำการ 4 แสนกว่าครั้ง ซึ่งก็เป็นประโยชน์กับทั้งลูกค้าและบริษัท
– ประกันติดล้อมีการสร้าง Brand และโลโก้ใหม่ เพื่อแยกให้ลูกค้ารู้จักมากขึ้น ยังคงเป็นนายหน้าประกันอันดับ 2 ของประเทศ โดยลูกค้าประกันเกิน 90% เดินเข้ามาเพื่อซื้อประกันอย่างเดียว ส่วน Platform อารีเกเตอร์ก็เติบโตต่อเนื่อง เบี้ย +132% YoY ในครึ่งปีแรก แต่ยังเป็นสัดส่วนที่น้อยอยู่ โดยรวมสัดส่วนรายได้จากประกันอยู่ที่ 10.3% ขึ้นมาต่อเนื่องจากปีก่อนที่ 9.1% มองว่าเป็น Growth engine ที่สำคัญ
– Funding cost ยังคงคุมได้อยู่ Q2/65 อยู่ที่ 1.7% ทั้งจากได้เงิน IPO และการ Matching ระยะเวลาเงินกู้และเงินที่ปล่อยกู้ NIM 15.7% ยังสูงขึ้นจากปีก่อนที่ 15.4%
– D/E 2.1 เท่า ยังคงต่ำอยู่ มี Credit line m เหลือกับธนาคารไทยและต่างประเทศประมาณ 2 หมื่น ลบ.
– Credit cost 1.28% กลับมาสู่สิ่งที่ควรจะเป็น ในปีที่แล้วต่ำเกินไป
– NPL 1.39% เพิ่มเล็กน้อยจาก Q1 ที่ 1.25%
– Coverage ratio 270% ดรอปลงจาก Q1 ที่ 317%
• Outlook ภาพใหญ่
– ตลาดยังโตต่อเนื่อง และได้ประโยชน์จาก Market consolidation
– เงินเฟ้อมีผลทั้งด้านบวกและลบ ด้านบวกคือ Demand การกู้เพิ่มขึ้น ส่วนด้านลบคือกำลังในการใช้จ่ายเงินของลูกค้า
– ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น
– คู่แข่งเข้ามาในตลาดต่อเนื่อง
– การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
• Outlook บริษัท
– เร่งการขยายสาขาปีนี้ +20-25%
– พอร์ตโต +23-28%
– เบี้ยประกัน +30-35%
– Credit cost น้อยหว่า1.9%
Q&A
– Cost to income เฉลี่ยทั้งปีคิดว่าอยู่แถว High fifty (50 ปลาย)
– Credit cost ที่มองไว้ว่าไม่เกิน 1.9% เนื่องจากต้องการ Maintain coverage ratio และเริ่มเห็นสัญญาณ NPL ที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ถือว่าค่อนข้าง Conservative ส่วน Guidance NPL ยังคงไม่เกิน 2%
– ยังไม่คิดเรื่องการลด Cost ด้านการลงทุน เพราะเชื่อว่ายิ่งลงทุนด้านการพัฒนา Product มากเท่าไหร่ Cost ในอนาคตก็จะลดลงมากเท่านั้น และที่สำคัญคือยิ่งทำให้เจ้าอื่นตาม TIDLOR ทันยากขึ้นไปอีก
– ช่วงครึ่งปีหลังมองว่าการตั้งสำรองจะเร่งขึ้นทั้งอุตสาหกรรมและมากกว่าก่อนโควิดด้วย เนื่องจากปีที่แล้วตั้งสำรองกันน้อยเกินไป ตามมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ของ ธปท. บริษัทที่มี Coverage ratio สูงจะได้เปรียบ
กราฟกำไรรายไตรมาส
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
? แอด Line มีของแจก ฟรี!!!
Line id : @MrStock
? Line : https://MrStock.me/line
( คลิก ที่ลิ้งก์เพื่อแอดเพื่อนได้เลย)