หุ้น SAPPE – สรุป OPPDAY 2021Q4
สรุปประเด็นสำคัญ
– ยอดขาย Export : Domestic = 65 : 35
– ยอดขาย Export +27% YoY และยอดขายในประเทศ -20% YoY ทำให้บริษัทมีการโยก Budget การทำการตลาดไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้น และยังเห็นโทนดีต่อเนื่องในช่วงต้นปีด้วย
– NPM ทั้งปี 11.9%
– COGS to sales ดีขึ้น 2.6% มาจาก U-rate ที่เพิ่มขึ้น และมี Process improvement
– Selling expense ที่เพิ่มขึ้นมาเยอะจากค่าระวางเรือที่สูงขึ้น เพราะ SAPPE เป็นผู้จัดหาเรือให้ แต่จะไม่กระทบ Bottom line เพราะได้รายได้จากลูกค้า บันทึกในรายได้อื่น
– ประกาศจ่ายปันผล 1.1 บาทต่อหุ้น
– สินค้าที่มีสัดส่วนยอดขายสูงสุดคือ Fruit juice มีสัดส่วน 62.3%
- ธุรกิจต่างประเทศ
– สินค้าหลักคือ Mogu mogu คิดเป็นสัดส่วนรายได้ถึง 86% ของรายได้จากต่างประเทศ
– รายได้ยังสามารถเติบโตได้ทุกภูมิภาคโดยเฉพาะ America, EU และ Middle east ส่วน Asia เติบโตต่ำสุดเฉลี่ยปีละ 6.2% ต่อปี CAGR ตั้งแต่ปี 2015
– Growth strategy ได้แก่ การขยายเข้าร้านค้าที่มากขึ้น ทำ Package ที่ Value for money มากขึ้น และใช้ Digital marketing
- ธุรกิจในประเทศ
– Growth strategy เด่นๆ คือการจับมือ Collaborate กับบริษัทต่างๆ เช่น Workpoint, ตะขาบ เพื่อสร้างสินค้าใหม่ๆ
– ปรับราคาสินค้าค้าปลีก B’lue ลงมาจาก 25 บาทต่อขวดเหลือ 20 บาท และมีการจัด Campaign ร่วมกับหนัง Spiderman no way home
ช่องทางการขาย E-commerce
– ยอดขาย +600% YoY
– ปีนี้ตั้งเป้า Double ยอดขายต่อ
ALL coco
– กลับมา Turn เป็นกำไรแล้ว ใน Q4/64 รายได้ 75 ลบ. มีกำไรสุทธิ 5.24 ลบ. หลังจากที่ขาดทุนใน Q1 และ Q2/64
– รายได้ทั้งปี 316 ลบ. กำไรสุทธิ 8.5 แสนบาท
– ปีนี้แล้วต่ำกว่าเป้าหมาย
– ตลาดต่างประเทศ +291% จากฐานที่ต่ำ
– มีการลดร้าน Café ที่ไม่ทำกำไรจาก 12 แห่งเหลือ 9 แห่ง และเปลี่ยน model ใหม่เป็นร้านเล็กๆ
- Key strategy & Growth target 2022-2026F
– ตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายปีนี้อยู่ที่ 15-20% แบ่งเป็นไทย +10% Asia +11% America & EU +38% YoY Middle East +37% YoY
– ตั้งเป้าเพิ่ม Capacity ในปี 2024
– มีดีล M&A ภายในช่วง 5 ปีนี้แน่นอน
Q&A
– ยอดขายต่างประเทศต้นปีค่อนข้างดีมาก
– เป้าปีนี้จะทำให้บริษัทสามารถทำ New high ทั้งยอดขายและกำไร ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันนี้ก็ยัง on track เป็นไปตามแผน
– สิ่งที่ Challenge สำหรับบริษัทคือตลาดในประเทศ
– ผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในครึ่งปีแรกจะยังไม่เห็นผลกระทบ เพราะบริษัทเตรียมตัวมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ส่วนครึ่งปีหลังบริษัทก็พยายามจับตาราคาต้นทุนอยู่ หากไม่ลงมาเลยก็มีมาตรการภายใน เช่น การเพิ่มราคาขาย หรือการลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่นภายในบริษัท
– โทนตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะ America, EU และ Middle east ดีมากๆ คนแทบไม่กลัวโควิดกันแล้ว
– สงครามรัสเซียยูเครนยังไม่เห็นผลกระทบมากนัก ตอนนี้ที่เห็นคือราคาต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ยังไม่กระทบกับ Demand
กราฟกำไรรายไตรมาส
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
แอด Line มีของแจก ฟรี!!!
Line id : @MrStock
Line : https://MrStock.me/line( คลิก ที่ลิ้งก์เพื่อแอดเพื่อนได้เลย)