EV/EBITDA วิธีการประเมินมูลค่า หาหุ้นดีนอกสายตา

Posted on February 7, 2022June 30, 2023 by mrlikestock_2

หากพูดถึงวิธีการประเมินมูลค่าแบบ EV/EBITDA เราอาจไม่คุ้นชินกับการประเมินมูลค่าวิธีนี้มากนัก แต่รู้ไหมว่าการประเมินมูลค่าด้วยวิธีนี้อาจเจอหุ้นดีนอกสายตานายตลาดก็เป็นได้

EV/EBITDA หรือ Enterprise Value Per EBITDA เป็นตัวเลขแสดงระยะเวลาคืนทุน (ค่าน้อยคือถูก) สามารถใช้วัดความถูกแพง เทียบกับหุ้นในลักษณะเดียวกันได้ EV คือ มูลค่าของกิจการทั้งหมดส่วน EBITDA คือ กำไรที่เป็นเงินสดอย่างคร่าวๆ สามารถหาได้จาก

EV = market Capitalization + หนี้สิน – เงินสด

EBITDA = EBIT + ค่าเสื่อมราคา

เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น สมมติ Mr.LikeStock สนใจลงทุนซื้อร้านขายก๋วยเตี๋ยว มูลค่าร้านก๋วยเตี๋ยว ณ ราคาตลาด เป็นเงิน 1,000,000 บาท

เมื่อเปิดดูงบการเงินดูปรากฏว่า ร้านก๋วยเตี๋ยวมีหนี้ที่ต้องจ่ายธนาคารอยู่ 300,000 บาท และมีเงินสดอยู่ 100,000 บาท ดังนั้น ค่า EV = 1,200,000

เมื่อ Mr.LikeStock พิจารณาการดำเนินงานพบว่าร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ให้เงินสดปีละ 200,000 บาท ค่า EBITDA จะเท่ากับ 200,0000 บาท ดังนั้นถ้า Mr.LikeStock ซื้อกิจการก๋วยเตี๋ยวต้องขายกี่ปีถึงจะคืนทุน ? นี่คืออัตราส่วน EV/EBITDA นั่นเอง พอเห็นภาพกันแล้วใช่ไหมครับ

ในการนำค่า EV/EBITDA ไปใช้งานในการประเมินมูลค่าหุ้นจริงๆ ค่าดังกล่าวไม่ควรมีค่าสูงนัก EV/EBITDA ควรมีค่าประมาณ 6 – 16 เท่า แต่ถ้าเกินกว่านี้ ให้ใช้วิธีอื่นในการประเมินมูลค่าแทน (เช่น วิธี PE) ซึ่งเป็นเลขที่ Mr.LikeStock พิจารณาความคุ้มค่าในการลงทุนในวิธีนี้ เงินสดที่บริษัทได้รับแต่ละปีนั้นสามารถดูได้จากงบกระแสเงินสดแต่เพื่อความสะดวก จึงนิยมเลือกใช้ค่า EBITDA แทน

แต่ใช่ว่าจะใช้วิธีดังกล่าวประเมินมูลค่าหุ้นได้ทุกตัว หุ้นบางตัวหรือบางจังหวะเวลาก็เหมาะกับวิธีการนี้ ลักษณะหุ้นที่เหมาะกับการประเมินมูลค่าด้วยวิธีนี้ ได้แก่ หุ้นที่ช่วงแรกกำไรสุทธิยังน้อย เพราะโดนหักค่าเสื่อมราคาเยอะ (เป็นธุรกิจที่เพิ่งเริ่มลงทุนในที่ดิน อาคาร) คือ หุ้นที่มีค่าเสื่อมราคาเยอะ แต่มีกำไรเงินสดที่น่าสนใจรอวันถึงจุดคุ้มทุน กำไรสุทธิ จะโตระเบิด

วิธีนี้ ไว้เป็นการประเมินมูลค่าเผื่อเจอบริษัทที่เป็นเพชรในตมก็ได้ถ้าเจอแล้ว ฝากสะกิด Mr.LikeStock ด้วยนะครับ

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

แอด Line มีของแจก ฟรี!!!