หุ้น COM7 – สรุป OPPDAY 2022Q3

Posted on November 29, 2022November 29, 2022 by mrlikestock_2

สรุปประเด็นสำคัญ

– รายได้ Q3/65 ที่ 15,054 ลบ. +49% YoY หลักๆ จากสินค้า iPhone 14 เลื่อนมาขายเร็วขึ้นในปีนี้

– สัดส่วนรายได้หลักมาจาก

1. Smartphone คิดเป็น 58% ของรายได้รวม เติบโตสูงที่สุด +70% YoY หลักๆ จากสินค้า iPhone

2. Accessory สัดส่วน 16% ของรายได้รวม +51% YoY

3. Tablet สัดส่วน 13% เป็นสินค้าเดียวที่รายได้ลดลง -15% YoY เนื่องจากสินค้าขาดตลาดไม่พอขาย

– มีตัวช่วยในการซื้อสินค้าให้ลูกค้าซื้อได้ง่ายขึ้น คือ โปรแกรมผ่อนสินค้าและขายประกันสินค้า

– ผลกระทบจากสภาพแวดล้อมกับ COM7 ได้แก่

1. โควิด ทำให้การเติบโตของรายได้ในปี 2020 สะดุดลงเหลือ +12% จากระดับปกติประมาณ 20% และกลับมาโตแรงมากในปี 64 ที่ +36% YoY ด้าน GPM สามารถ Maintain ได้ระดับ 13.5% ส่วน %SG&A ลดลงเรื่อยๆ ตามการบริหารที่ดีขึ้น

2. ผลประกอบการของ NCAP ปีนี้ถูกกระทบหนักจากดอกเบี้ยขาขึ้น เงินเฟ้อ และการควบคุมเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อที่เพิ่งออกมา ทำให้ส่วนแบ่งกำไรหายไปเยอะ จากปีก่อนทั้งปี 96 ลบ. ตอนนี้รอบ 9 เดือนได้มาเพียง 22 ลบ.

3. ค่าเงิน USD ปกติบริษัทมีการสั่งซื้อสินค้าเป็นสกุล USD อยู่ที่เดือนละ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับต้นทุนการสั่งสินค้าเฉลี่ยต่อเดือนของบริษัทที่ 4.3 หมื่นล้านบาท และการซื้อในสกุล USD มีการทำ Forward ไว้ 50% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งปีหน้ามีแผนจะลดการซื้อในสกุลดอลลาร์ลงเหลือ 1 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อลดผลกระทบด้านค่าเงิน

4. ดอกเบี้ยขาขึ้น การขึ้นของเบี้ย 0.25% จะทำให้ภาระดอกเบี้ยของบริษัทเพิ่มขึ้น 15 ลบ. (กู้มาเป็น Working cap ประมาณ 5 พันล้านบาท)

5. เลือกขายหุ้น Double 7 หรือธุรกิจบริหารร้าน True shop ให้กับ SABUY ไป 40% คิดเป็นจำนวนเงิน 1,360 ลบ. ปกติ Double 7 ทำกำไรเฉลี่ยปีละ 170 ลบ. ไม่ได้มีการเติบโตมากเนื่องจากการขยายสาขาถูกจำกัดจากสัญญาจากการค้า แต่ SABUY จ่ายด้วยหุ้นของตัวเอง ไม่ได้จ่ายเป็นเงินสด ซึ่งความผันผวนของราคาหุ้น SABUY จะไม่กระทบกับ P/L แต่ไปกระทบกับส่วนทุนของบริษัทโดยตรง

6. การเปิดตัวของ iPhone 14 เทียบกับ iPhone 13 เทียบจำนวนวันขายที่เท่ากัน จำนวน Unit การขายเพิ่มขึ้น 7% และรายได้เพิ่มขึ้น 20% ทั้งหมดจะมี 3 Concepts

– เป้าหมายอีก 3 ปีข้างหน้าต้องการมี Market share เป็น 35% ตอนนี้ COM7 มี Mkt share ส่วนของ PC 10% และโทรศัพท์ 18% โดยวิธีการ ได้แก่

1. การขยายช่องทางค้าส่งผ่าน Adept เป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศของแบรนด์ Realme ทำให้รู้ข้อมูลของลูกค้าที่เป็นอำเภอรอง

2. ขยายช่องทาง Online platform อย่าง BNN.in.th มี Traffic 2.4 ล้านครั้งต่อเดือน และ Conversion rate 1.1% และ Studio7thailand.com มี Traffic 1.1 ล้านครั้งต่อเดือน มี Conservation rate 0.7% รวมถึงการทำ Employee benefit กับพนักงานบริษัท ภายในปีนี้คาดว่าจะมีพนักงานมาสมัคร 1 แสนราย

3. การขยายสาขา ใน Q3 จำนวน 37 สาขา และ Q4 จำนวน 51 สาขา รวมทั้งปีนี้เปิดเพิ่ม 166 สาขา ซึ่งการเปิดสาขาเพิ่มขึ้นก็ไม่ได้กินสาขาเดิม SSSG ยังเป็นบวกต่อ และการเปิดสาขาแบบ Standalone ที่สาขาเลียบด่วนรามอินทราจะเป็นสาขาสุดท้ายที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย เพราะเหตุผลคือพื้นที่ไม่เพียงพอกับความหลากหลายของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะวาง หลังจากนี้จะปรับ Concept ใหม่และมองหาพื้นที่เช่าที่ขนาดใหญ่ขึ้นประมาณ 2,000-3,000 ตร.ม.

4. การเข้ามาของ Device 5G เป็นโอกาสกับบริษัท เนื่องจาก Device ที่เป็น 5G ในปี 2021 มีสัดส่วนเพียง 5% ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดมาอยู่ที่ 11%

5. การซื้อพุทธธรรมประกันภัย เพื่อมาเป็น Service ให้กับลูกค้าที่ซื้อสินค้า IT กับบริษัท

6. มี Affordability program คือ UFund และ True loan

– ทดลองทำร้านขายยาภายใต้แบรนด์ Dr.Pharma โดย Partner กับ BDMS วางคอนเซ็ปต์ไม่ใช่ร้านขายยาทั่วไป แต่มี Solution ที่แตกต่างคือการได้ Call กับหมอ และสามารถซื้อยาได้ในราคาถูก ทั้งหมดจะมี 3 คอนเซ็ปต์ ได้แก่ Stand alone ร้านใน Shopping mall และร้านในปั๊มน้ำมัน