7 ratio วัดหุ้นเด่น สูตรหาหุ้นเด็ด
เคยเป็นกันบ้างไหม ปัญหาจะหุ้นลงทุนยังไงดี มีให้เลือกเต็มตลาด จะเปิดงบดูทุกตัวก็ไม่ไหว หากใครเจอปัญหาเหล่านี้ วันนี้ Mr.LikeStock จะมาแชร์เทคนิคในการกรองหุ้น หาหุ้นดี กับ 7 Ratio วัดหุ้นเด่น หากเพื่อนๆ พร้อมแล้วลุยกันเลย
7 ratio วัดหุ้นเด่นที่ Mr.LikeStock จะมานำเสนอได้แก่
- GPM = อัตรากำไรขั้นต้น
- NPM = อัตรากำไรสุทธิ
- ROE = อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น
- ROA = อัตราผลตอบแทนจากทรัพย์สิน
- AT = อัตราหมุนเวียนทรัพย์สิน
- DE = อัตราส่วนหนี้สินต่อผู้ถือหุ้น
- Cash Cycle = วงจรเงินสด
ซึ่ง Mr.LikeStock ได้แบ่งเป็นสอง 2 ส่วน เพื่อง่ายต่อการจดจำโดยที่ 5 อัตราส่วนแรกยิ่งเพิ่มขึ้นยิ่งดี 2 อัตราส่วนหลัง ยิ่งลดลง ยิ่งดี โดยหลักๆแล้วแนวการดูจะคล้ายๆกัน แต่มีบางอัตราส่วนที่ Mr.LikeStock อยากเสริมไว้ให้คือ
GPM อัตรากำไรขั้นต้นเวลาที่ Mr.LikeStock พิจารณาอัตราส่วนนี้ ไม่ได้โฟกัสว่าหุ้นทุกตัวต้องมีค่าเยอะๆ เพราะธรรมชาติของแต่ละธุรกิจนั้นไม่เหมือนกัน สำหรับเพื่อนๆ ที่เพิ่งเริ่มลงทุน Mr.LikeStock แนะนำให้เลือกหุ้นที่ GPM สม่ำเสมอ หากมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วยจะดีมาก เพราะง่ายต่อการคาดการณ์ และเป็นสัญญาณที่ดี
AT อัตราหมุนเวียนทรัพย์สินMr.LikeStock อยากให้อัตราส่วนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะแสดงถึงการใช้ทรัพสินย์อย่างคุ้มค่า แสดงถึงรายได้เพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้ลงทุนเพิ่ม หรือเข้าใจง่ายๆว่ากิจการมีการค้าขายดีขึ้นนั่นเอง
Cash Cycle วงจรเงินสดหลายคนยังสงสัยว่าวงจรเงินสดกี่วันถือว่ามาก กี่วันถือว่าน้อย อย่าง วงจรเงินสด 30 วัน หมายถึงธุรกิจต้องมีเงินสดสำหรับดำเนินธุรกิจในระยะเวลา 30 วัน หากสภาพคล่องต่ำ และมีวงจรเงินสดหลายๆวัน จะส่อให้เห็นว่ากิจการมีความเสี่ยงการขาดสภาพคล่องได้
หากเพื่อนๆ อ่านมาถึงตรงนี้พอได้ไอเดียในการกรองหุ้นพอสมควรแล้ว ซึ่งหลังจากที่เราได้หุ้นมาจำนวนหนึ่ง ขั้นตอนต่อไปที่จะต้องทำคือการเปิดดูงบการเงินจริงๆ ดูให้ละเอียดอีกครั้งนึงก่อนตัดสินใจลงทุน
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
แอด Line มีของแจก ฟรี!!!
Line id : @MrStock
Line : https://MrStock.me/line(คลิก ที่ลิ้งก์เพื่อแอดเพื่อนได้เลย)
คอร์ส หุ้น vi มือใหม่ ง่ายกว่าอ่านเอง รับประกัน 
