อัตราส่วนทางการเงิน เข้าใจง่าย ๆ ในโพสต์เดียว
อัตราส่วนทางการเงิน ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงอยู่บ่อยๆ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ งบการเงิน ทำให้เห็นภาพรวมของบริษัท และความสามารถในการทำกำไรในเชิงเปรียบเทียบได้ง่ายขึ้น เพราะในงบการเงินนั้น ประกอบด้วยข้อมูลมากมาย ยากต่อการตีความ
Mr.LikeStock จะแบ่งอัตราส่วนทางเงินออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่
- อัตราส่วนโครงสร้างทางการเงิน ได้แก่ D/E
- อัตราส่วนความสามารถในการทำกำไร ได้แก่ GPM, NPM, ROA, ROE
- อัตราส่วนประสิทธิภาพในการบริหารสินทรัพย์ ได้แก่ AT
D/E Ratio (Debt to Equity Ratio) = รวมหนี้สิน / รวมส่วนของผู้ถือหุ้น
แสดงถึงสัดส่วนของเงินทุนจากการกู้ยืมต่อส่วนทุน โดยปกติ หากมีค่าสูง แสดงว่ามีหนี้สินเยอะ ภาระดอกเบี้ยสูง ความเสี่ยงสูง แต่ กิจการที่มีค่า D/E สูงอาจจะไม่ใช่กิจการที่มีหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสูงเสมอไป
GPM (Gross Profit Margin) = กำไรขั้นต้น x 100 / รายได้จากการขาย
กำไรขั้นต้น = รายได้การขาย – ต้นทุนสินค้า
แสดงถึงความสามารถในการทำกำไรขั้นต้น เปรียบเทียบกับยอดขาย ยิ่งมีค่าสูงยิ่งดี เพราะแสดงถึงความสามารถในการควบคุมต้นทุนการผลิตที่ดี การแข่งขันไม่รุนแรง แต่ไม่ควรนำไปเปรียบเทียบข้ามอุตสาหกรรม เพราะธรรมชาติธุรกิจแตกต่างกัน อัตราส่วนนี้ยังบอกถึงคุณภาพในการเติบโตได้ด้วย
NPM (Net Profit Margin) = (กำไรสุทธิ x 100) / รายได้รวม
กำไรสุทธิ สามารถดูได้จากบรรทัดสุดท้ายของงบกำไรขาดทุนได้เลย แต่บางครั้งกิจการมีกำไร – ขาดทุน พิเศษ ดังนั้นเราควร หักลบ บวกกลับ ให้เรียบร้อยก่อนนำมาคิด โดยปกติ อัตราส่วนนี้ยิ่งมีค่าสูงยิ่งดี แต่ไม่ควรเปรียบเทียบข้ามอุตสาหกรรม เช่น Makro ธรรมชาติเน้นขายปริมาณเยอะ แต่ 7- Eleven เน้นค้าปลีก ซึ่งเป็นกิจการที่แข็งแกร่งทั้งคู่แต่มี NPM มากน้อยต่างกัน
ROA อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม = (EBIT x 100) / สินทรัพย์รวมเฉลี่ย
EBIT เป็นกำไรจากการดำเนินงาน อัตราส่วนนี้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างผลกำไรของกิจการเทียบกับสินทรัพย์ทั้งหมด ROA สูง แสดงถึง กิจการใช้สินทรัพย์ได้อย่างมีคุณภาพ
ROE อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น = (กำไรสุทธิ x 100) / ส่วนของผู้ถือหุ้นรวมเฉลี่ย
เป็นอัตราส่วนแสดงความสัมพันธ์รของกำไรกิจการเทียบกับส่วนผู้ถือหุ้น ยิ่งมีค่ามากยิ่งดี แต่ต้องระวังค่า ROE สูงๆ ที่เกิดจากหนี้สินมากๆ เพราะการมีหนี้สินมาก ยิ่งมีความเสี่ยงมากเช่นกัน ถือเป็นอีกอัตราส่วนนึงที่นักลงทุนแนว VI ชอบใช้กัน
AT (Total Assets Turnover Ratio) = รายได้รวม / สินทรัพย์รวมเฉลี่ย
เป็นการเปรียบเทียบยอดขายกับสินทรัพย์รวม แสดงถึงความคุ้มค่าในการใช้สินทรัพย์ทั้งหมดที่กิจการ มีหลักการดู ยิ่งมีค่าสูงยิ่งดี ซึ่ง Mr.LikeStock จะชอบใช้อัตราส่วนนี้กับกิจการที่มีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเยอะๆ เช่น โรงพยาบาล เมื่อมีการก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ ยังใช้สินทรัพย์ไม่คุ้มค่าเท่าไหร่หาก AT เริ่มมีสัญญาณมีค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถือว่าเริ่มสนใจเข้าไปลงทุน
ข้อควรระวังในการใช้อัตราส่วนทางการเงิน
1. อัตราส่วนทางการเงินที่เพื่อนๆ เปิดดูจากตลาดหลักทรัพย์นั้น เป็นการคำนวณจากงบการเงินโดยตรง ซึ่งรวมรายการที่ผิดปกติไว้ด้วย เช่น กำไรพิเศษ หรือ ขาดทุนพิเศษ
2. ไม่ควรเปรีบเทียบอัตราส่วนทางการเงินข้ามอุตสาหกรรม หรือกิจการที่มีลักษณะธุรกิจแตกต่างกัน ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ Mr.LikeStock แนะนำให้เปรียบเทียบกิจการเดิม แต่เปรียบเทียบจากปีก่อนหน้าว่ามีค่าตัวเลขดีขึ้นหรือไม่
หวังว่าเพื่อนๆ จะได้ไอเดีย หรือเข้าใจการใช้อัตราส่วนทางการเงิน เพื่อนำไปวิเคราะห์กิจการเพิ่มขึ้น หากอยากให้ Mr.LikeStock เขียนบทความอะไรเพิ่มเติมสามารถคอมเมนต์มาได้เลย
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
แอด Line มีของแจก ฟรี!!!
Line id : @MrStock
Line : https://MrStock.me/line( คลิก ที่ลิ้งก์เพื่อแอดเพื่อนได้เลย)
คอร์ส หุ้น vi มือใหม่ ง่ายกว่าอ่านเอง รับประกัน