การมี Passive Income ได้ เพียงแค่ลงทุนกับเวลา
เคยสงสัยไหมว่า การลงทุนกับเวลาจะทำให้เรามี Passive income ได้อย่างไร ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่เลือกที่จะใช้เวลาในการหาเงิน แต่จริงแล้ว เราสามารถเอาเวลามาแลกเป็นเงินได้ เพียงแค่เรารู้จักการลงทุน หรือลงทุนในความรู้นั่นเอง บางทีการที่เราลงทุนในความรู้ไม่กี่ปีอาจจะทำให้เราปลดเกษียณเร็วกว่าอายุ 60 ได้ถึง 10-20 ปีก่อนหน้าก็ได้นะคะ
Passive Income คืออะไร
การสร้างรายได้หรือกระแสเงินสดที่มาจากการลงทุนช่วงแรก แต่สามารถออกดอกผลได้ในระยะยาว เช่น การลงทุนในหุ้นที่มีปันผล หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่า
เคยมีหนังสือของ พ่อรวยสอนลูก มีการแบ่งคนเป็น 4 ด้าน
- คนที่ 1 คนที่มาจากด้าน E คือ ลูกจ้าง คนที่มองหาเงินเดือนดี ๆ และมีสวัสดิการที่ยอดเยี่ยม คนเหล่านี้จะมีความกลัวจากความไม่มั่นคง เช่น สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ อย่างช่วงโควิดที่ผ่านมาจะเห็นว่า ไม่มีอาชีพใดที่มั่นคงจริง ๆ อีกต่อไป
- คนที่ 2 คนที่มาจากด้าน S คือ คนที่ทำงานอาชีพอิสระ คนที่ทำงานทุกอย่างเอง ทุ่มเทในการสร้างงานคนเดียว ใช้เวลาอยู่กับงานคนเดียว คนเหล่านี้ มักจะไม่ชอบให้รายได้ของตัวเองขึ้นอยู่กับคนอื่น เขาจะเป็นคนที่ขยันทำงานมาก ๆ เขาจะระงับความกลัวจากความไม่มั่นคงด้วยการทำงานมากขึ้น
- คนที่ 3 คนที่มาจากด้าน B คือ เจ้าของธุรกิจ เป็นคนที่ชอบแบ่งงานไปให้คนอื่นทำ เขาจะจ้างคนเก่ง ๆ ที่ขยันทำงาน อย่างเช่นคนกลุ่ม S โดยการรวมกลุ่มหัวกะทิไว้ เขาจะคิดว่าทำไมเขาต้องทำเองในเมื่อมีคนที่ทำได้ดีกว่าเขา
- คนที่ 4 คนที่มาจากด้าน I คือ นักลงทุน จะมองว่า “กระแสเงินสดของฉันได้มาจากแหล่งเงินทุนไหน” คนกลุ่มนี้จะใช้เงินของเขาทำงาน โดยที่เขาไม่ต้องทำงาน เขาจะคิดว่าจะทำอย่างไรให้เปลี่ยนจาก ความรวย เป็น ความมั่นคง ในชีวิตได้
การรู้จักลงทุนกับเวลา
โดยคนส่วนใหญ่แล้ว มักจะไม่ลงทุนกับเวลา จะใช้เหตุผลว่าไม่มีเวลาในการหาความรู้ แต่รู้ไหมจริง ๆ แล้ว เรามีเวลาแต่เราแค่ไม่รู้จักกับการสร้างประสิทธิภาพของเวลาให้เกิดประโยชน์ เช่น เราเอาเวลาไปไถโทรศัพท์ คุณรู้ไหมว่า บางทีการที่เราไถโทรศัพท์ไปมา อาจจะทำให้เราเสียเวลาไปแล้วกว่าครึ่งวัน ถ้าเรารู้จักจัดการเวลาได้ เราก็สามารถมีกระแสเงินสดที่มีไว้ใช้จ่ายในอนาคตได้
เราต้องมีการจัดการกับเวลาให้ถูกต้อง ฟังแล้วอาจจะดูเข้มงวดไปบ้าง แต่อาจจะช่วยที่ทุกคนได้ โดยการจัดทำตารางเวลาเลยว่า ในทุก ๆ 1 ชั่วโมง เราต้องทำไรบ้าง เพื่อให้เรามีวินัย หรือถ้าเวลาจะเล่นโทรศัพท์
เราควรแบ่งเวลาไปเลยว่า ช่วง 19.00- 20.00 น.นั้น เราจะเล่นโทรศัพท์ แต่ในช่วงที่เราอ่านหนังสือ เราจะทำการแบ่งเวลาในช่วงไหน การทำอย่างนี้จะทำให้เราจัดการเวลาในชีวิตเราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาจจะฟังดูยาก แต่ถ้าทำแล้วอาจจะส่งผลดีอย่างแน่นอน
การหาความรู้ก่อนลงมือจริง
ก่อนที่เราจะมี Passive income เราต้องมีความรู้ก่อน อย่างเช่น เราจะลงทุนในหุ้นให้มี กระแสเงินสดไว้ใช้จ่ายในระยะยาว เราต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขาย กิจการของหุ้นที่เราจะซื้อ มูลค่าที่แท้จริง การดูงบการเงิน จริง ๆ แล้วการลงทุนทุกอย่างเราควรมีความรู้ก่อนลงทุน ไม่ใช่แค่กับหุ้น แต่กับอสังหาริมทรัพย์ หรือ บิทคอยน์ (Bitcoin) ก็ต้องทำการศึกษาให้เข้าใจก่อนเอาเงินไปแลกกับเวลา มิฉะนั้นแล้วเราอาจจะต้องสูญเสียเงินที่เรามีอยู่ก็เป็นได้
การหาความรู้ในปัจจุบันสามารถทำได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Youtube , Clubhouse ถ้าเราสนใจอะไรให้เราเข้าไปหาในช่องทางเหล่านั้นได้ หรือพยายามเข้าไปใกล้ชิดกับผู้ที่มีความรู้ในด้านนั้น ๆ
อย่างเช่น ถ้าเราสนใจในหุ้นเพื่อการลงทุน เราควรเข้าไปศึกษาว่าจริง ๆ แล้วหุ้นคืออะไร สามารถสร้างผลตอบแทนให้เราได้อย่างไร ควรต้องรู้อะไรบ้าง และการเข้าใกล้คนที่มีความรู้ในหุ้น จะทำให้เรามีความรู้มากขึ้น ซึ่งเราทำได้โดยดูคลิป หรือฟังคลิปสัมภาษณ์หรือไปงานสัมมนาเกี่ยวกับหุ้นต่าง ๆ จะทำให้เรารู้จักมุมมองของนักลงทุนแต่ละคน และนำมาปรับใช้เพื่อให้เหมาะสมกับตัวเราได้
การลงทุนไม่ใช่เรื่องยาก และไม่ใช่เรื่องง่าย เพียงแค่เราเปิดใจที่จะเข้าไปศึกษา
การรู้จักค่าของเงิน
การที่เราอยากจะมี Passive income ในอนาคต เราอาจจะต้องรู้จัก
”การอดเปรี้ยวไว้กินหวาน”
บางที่เราอาจจะต้องยอมเสียสละความสุขในปัจจุบัน เพื่อความสุขในอนาคต เช่น การที่เราอยากจะออกรถคันใหม่ อาจจะต้องรอก่อน เพราะว่ารถมูลค่าลดลงไปทุก ๆ วัน และรถมีแต่ค่าใช้จ่าย ถ้าเรายอมอดได้รถใหม่ในวันนี้ ในอีก 5 ปี ข้างหน้าเราอาจจะสามารถสร้างกระแสเงินสดได้ในอนาคต หรือบางทีแค่เรายอมเสียสละไม่มีรถใหม่ 5 ปีเราอาจสามารถลดเวลาในการทำงานของเรามากกว่า 5 ปีก็ได้
ต้นทุนของความสุขคนเรามีไม่เท่ากัน เราจะมี Passive income จะช้าจะเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับต้นทุนในความสุขของแต่ละคน บางคนมีความสุขอยู่กับของแพง ๆ แต่จริงแล้วเราสามารถมี่ทั้งความสุข และมีรายได้เข้ามาได้ เช่น บางคนชอบแต่งตัวมาก รายได้ส่วนใหญ่ที่ออกมา จะมีการใช้จ่ายในเสื้อผ้าเกือบหมด เขาจึงหันมาทำธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งที่เขาชอบ โดยการให้เช่าซื้อผ้า เพราะคนในปัจจุบันใส่เสื้อผ้าแค่ 1-2 ครั้งก็ไม่ใส่แล้ว เนื่องจาก เสื้อผ้าตัวที่ใส่ไปจะมีการถ่ายรูปลงโซเชียลไปแล้ว ดังนั้นจึงมีธุรกิจนี้ขึ้นมา
เห็นไหมคะ เราสามารถเปลี่ยนจากต้นทุนความสุขราคาแพงของเรา ให้เป็นรายได้เข้ามา คุณสามารถทำได้แค่คุณหาความชอบให้เจอ
เราจะซื้อเวลาได้จริงแค่เราลงมือทำ
บาทีการคิดแต่ไม่ทำ มันก็ไม่ได้เกิดผลอะไร ในช่องแรกอาจจะลำบากสักหน่อย แต่พอเราเริ่มความรู้พื้นฐานก็จะทำให้ง่ายขึ้นแล้ว ในช่วงแรกอาจจะต้องใช้เวลาเรียนรู้เยอะ แต่พอทำไปสักพักเราจะเริ่มชิน และสามารถปรับตัวได้ เหมือนการเริ่มวิ่งครั้งแรก อาจจะเหนื่อยในช่วงแรก แต่เชื่อเถอะว่า พอวิ่งไปสักพักเราจะเริ่มชิน และสนุกไปกับมันเอง
แอด Line มีของแจก ฟรี!!!
Line id : @MrStock
? Line : https://MrStock.me/line/
( คลิก ที่ลิ้งค์เพื่อแอดเพื่อนได้เลย)
Admin:Tanyanan