หุ้น MEGA อาหารเสริมที่ทุกคนคุ้นเคย ภายใต้แบรนด์ Mega We Care
หุ้น MEGA หรือ บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) ทำธุรกิจเกี่ยวกับ จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้แบรนด์ Mega We Care ที่ทุกคนคุ้นเคยกัน ซึ่งบริษัทได้มีการวางขายไปกว่า 35 ประเทศ และหุ้น MEGA เป็น หุ้นที่มีการเติบโตสวนกระแสโควิด-19 มาอีกด้วย วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงโครงสร้างทางธุรกิจว่าสัดส่วนรายได้ และกลุ่มลูกค้าเขาเป็นใครกันค่ะ
ธุรกิจแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- 1.ธุรกิจจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Maxxcare โดยทำการตลาด และขายสินค้า ประเภทยาตาม คำสั่งของแพทย์ มีขายอยู่ 3 ประเทศ เมียนมาร์ เวียดนาม และกัมพูชา
- 2.ธุรกิจผลิต พัฒนา และจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Mega We Care เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแล สุขภาพ
- 3.ธุรกิจรับจ้างผลิตยา (OEM) ให้แก่ลูกค้าในไทยและต่างประเทศ โดยมีโรงงานการผลิตอยู่ที่ไทย และออสเตรเลีย
สัดส่วนรายได้
- ธุรกิจจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Maxxcare 51.6%
- ธุรกิจผลิต พัฒนา และจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Mega We Care 46.4%
- ธุรกิจรับจ้างผลิตยา (OEM) 1.9%
สัดส่วนรายได้ในแต่ละประเทศ
- ภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ 87.74%
- ทวีปแอฟริกา 5.3%
- อื่น ๆ 6.9%
ประเด็นที่น่าติดตาม
- 1.บริษัทมีแผนการเติบโต ภายใน 5 ปี ตั้งเป้าจะมี กำไรสุทธิ 2,400 ล้านบาท หรือเติบโตเป็นเท่าตัว เมื่อเทียบกับปัจจุบัน
- 2.เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ซื้อกิจการ กิจการ PT Futamed Pharmaceuticals ทำธุรกิจเกี่ยวกับ ผลิตยาและทำตลาดผลิตภัณฑ์สุขภาพ ในประเทศอินโดนีเซีย การเข้าไปซื้อเนื่องจาก ประเทศ อินโดนีเซียห้ามมีการนำเข้าสินค้าประเภทยาในบางชนิด
ในปัจจุบันอยู่ในระหว่างการยื่นทะเบียนยา ที่ต้องผลิตในประเทศ อาจจะทำให้ต้องใช้เวลา 2-3 ปี โดยวางเป้าหมาย คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 900 ล้านบาทภายในปี 2568
- 3.มีการปรับปรุงและพัฒนากำลังการผลิตที่บางปู โดยใช้งบลงทุน 126 ล้านบาท ถ้ารายได้มากขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายเท่าเดิม ก็จะส่งผลต่อกำไรสุทธิที่ดีขึ้น
งบการเงิน
ปี 2560 รายได้ 9,639.82 ล้านบาท GPM 45.02 % กำไร 1,112.80 ล้านบาท NPM 11.54%
ปี 2561 รายได้ 10,443.48 ล้านบาท GPM 44.39% กำไร 1,206.01 ล้านบาท NPM 11.55%
ปี 2562 รายได้ 11,163.72 ล้านบาท GPM 41.14% กำไร 1,138.52 ล้านบาท NPM 10.20%
ปี 2563 รายได้ 12,613.02 ล้านบาท GPM 39.61% กำไร 1,392.65 ล้านบาท NPM 11.01%
จากงบการเงิน จะเห็นว่าบริษัทมีการเติบโตของรายได้ 13% จากปีก่อน ในสถานการณ์โควิด-19 เราจะเห็นไม่กี่บริษัทที่มีการเติบโตมากขึ้น ซึ่งเราแบ่งการโตของแต่ละสินค้า โดยสินค้า Mega We Care เติบโต 6.8% และ สินค้า Maxxcare เติบโตถึง 21.1% สุดท้ายนี้ส่งทำให้กำไรสุทธิเติบโตถึง 22%
ความถูก-แพงเทียบกับอุตสาหกรรม
หุ้น MEGA ยอดขาย 12,613 ล้านบาท GPM 39.61% Market Cap 29,862 ล้านบาท P/E 21 P/BV 4.29
หุ้น IP ยอดขาย 446.94 ล้านบาท GPM 59.01% Market Cap 19,913 ล้านบาท P/E 121 P/BV 13.84
หมายเหตุ ข้อมูล ณ วันที่ 05/04/2564
ความเสี่ยง
1.จากสถานการณ์ การประท้วงในประเทศพม่า อาจส่งผลต่อบริษัทเนื่องจากรายได้จากการขายสินค้าในประเทศพม่ามีสัดส่วนรายได้ถึง 46.5% ของรายได้รวมในบริษัทเลยทีเดียว
แต่ผู้บริหารได้กล่าวว่า ปัจจุบันได้มีการดำเนินธุรกิจอย่างเดิม เนื่องจากสินค้าประเภทยาเป็นสินค้าที่คนต้องบริโภคอยู่แล้ว จึงไม่ได้กังวนแต่อย่างใด
2.ด้านอัตราแลกเปลี่ยน ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัทเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจกับต่างประเทศ เมื่อเกิดการเปลี่ยนของค่าเงินก็จะทำให้บริษัทไม่สามารถเปลี่ยนราคาขายสินค้าให้กับผู้บริโภคได้ เพราะฉะนั้นบริษัทต้องแบกรับความเสี่ยงไว้เอง
3.บริษัทผลิตสินค้าที่อันตราย และเกี่ยวข้องกับสุขภาพของคน ดังนั้น บริษัทต้องระมัดระวัง ในด้านตัวยา และต้องทำตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
*บทความนี้ไม่ได้เป็นการชี้นำหุ้นแต่อย่างใด เป็นเพียงแค่การแชร์มุมมองจากข้อเท็จจริงเท่านั้น นักลงทุนโปรดใช้วิจารณญาณ
แอด Line มีของแจก ฟรี!!!
Line id : @MrStock
? Line : https://MrStock.me/line/
( คลิก ที่ลิ้งค์เพื่อแอดเพื่อนได้เลย)
ที่มา
รายงานประจำปี 2563 (หุ้น MEGA)
ที่มาภาพปก https://cfo5r7atay.makewebeasy.co/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95
Admin Tanyanan
